วันนี้เรามาทำความรู้จัก มาตรฐานบัญชี ฉบับที่ 8 (TAS 8 ) เรื่อง นโยบายบัญชี การเปลี่ยนแปลงประมาณการบัญชี และการแก้ไขข้อผิดพลาด
วัตถุประสงค์
มาตรฐานการบัญชีนี้ มีวัตถุประสงค์ ที่จะกำหนดหลักเกณฑ์ในการเลือกและการเปลี่ยนแปลง นโยบายการบัญชีรวมถึงวิธีปฏิบัติทางการบัญชีและการเปิดเผยข้อมูลฯ เพื่อให้งบการเงินของกิจการมีความเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ มีความน่าเชื่อ ถือ เพื่อให้ผู้ใช้งบการเงินสามารถเปรียบเทียบงบการเงินสำหรับงวดต่าง ๆ ของกิจการเดียวกัน และเปรียบเทียบงบการเงินระหว่างกิจการได้ดียิ่งขึ้น
นโยบายบัญชี
นโยบายบัญชี คือ หลักการ หลักเกณฑ์ ประเพณีปฏิบัติ กฎและวิธีปฏิบัติที่เฉพาะ ที่กิจการนำมาใช้ในการจัดทำและ นำเสนองบการเงิน
ตัวอย่างการเลือกนโยบายการบัญชีได้แก่
เลือกบันทึกที่ดิน อาคาร อุปกรณ์ ด้วยวิธีราคาทุน หรือ ราคาที่ตีใหม่
เลือกบันทึกสินค้าคงเหลือ ด้วยวิธีเข้าก่อนออกก่อน หรือ ถั่วเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก
การบันทึกประมาณการหนี้สินผลประโยชน์พนักงานแบบง่าย หรือ ใช้วิธีคิดลดทีละหน่วย ตาม TAS 19
เลือกบันทึกอสังหาริมทรัพย์เพื่อการลงทุน ด้วยวิธีราคาทุน หรือมูลค่ายุติธรรม
เมื่อไรต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายบัญชี

กิจการต้องเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี ถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้น เข้าเงื่อนไขข้อใดข้อหนึ่ง ดังนี้
เกิดจากข้อกำหนดของมาตรฐานการรายงานทางการเงิน หรือ ทำให้งบการเงินให้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือและเกี่ยวข้องกับการตัดสินใจมากขึ้น
กรณีต่อไปนี้ไม่ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชี
– การนำนโยบายการบัญชีใหม่มาถือปฏิบัติกับรายการเหตุการณ์อื่นหรือสถานการณ์ ที่มีเนื้อหาแตกต่างจากรายการและเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
– การนำนโยบายการบัญชีใหม่มาถือปฏิบัติกับรายการ เหตุการณ์อื่นหรือสถานการณ์ ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรือเคยเกิดขึ้นแต่ไม่มีสาระสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี
การเปลี่ยนแปลงประมาณการบัญชี หมายถึง การปรับปรุงมูลค่าตามบัญชีของสินทรัพย์หรือ หนี้สิน หรือจำนวนที่มีการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ในระหว่างงวด อันเป็นผลมาจากการประเมินสภาพปัจจุบันของสินทรัพย์และหนี้สิน และการประเมิน ประโยชน์และภาระผูกพัน ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอนาคตที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์และหนี้สินนั้น การเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีเป็นผลจากการได้รับข้อมูลใหม่หรือมีการพัฒนาเพิ่มเติมจากเดิม
ตัวอย่างการเปลี่ยนแปลงประมาณการบัญชี
เนื่องจากความไม่แน่นอนที่ เกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจ ดกิจการอาจไม่สามารถวัดมูลค่า รายการหลายรายการในงบการเงินได้อย่างแม่นยำ การประมาณการจึงต้องอาศัยดุลยพินิจ ได้
– การประมาณการหนี้สงสัยจะสูญ
– การประมาณการการเสื่อมค่าของสินค้าล้าสมัย
– มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ทางการเงินหรือหนี้สินทางการเงิน
– การประมาณการอายุการใช้ประโยชน์ของสินทรัพย์ หรือรูปแบบของการใช้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจใน อนาคตจากสินทรัพย์ที่มีการเสื่อมค่า
– ภาระผูกพันจากการรับประกัน
เมื่อไรต้องเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี 

กิจการอาจต้องทบทวนการประมาณการที่มีอยู่เดิมหากสถานการณ์ที่ใช้เป็นเกณฑ์ในการประมาณการได้เปลี่ยนแปลงไป หรือกิจการได้รับข้อมูลใหม่หรือมีประสบการณ์เพิ่มเติมจากเดิม
การแก้ไขข้อผิดพลาด
ข้อผิดพลาดในงวดก่อน การละเว้นการแสดงรายการและการแสดงรายการที่ ขัดต่อข้อเท็จจริงในงบการเงินของกิจการในงวดใดงวดหนึ่งหรือหลายงวดก่อน ๆ ก็ตาม อันเกิดจากความล้มเหลวในการใช้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือหรือการใช้ข้อมูลที่น่าเชื่อถือในทางที่ผิดซึ่งข้อมูลดังกล่าว มีอยู่ในงบการเงินของงวดก่อนที่ได้รับการอนุมัติให้ออก สามารถคาดการณ์ได้อย่างสมเหตุสมผลว่าสามารถหาข้อมูลได้ และนำมาใช้ในการจัดทำ และการนำเสนองบการเงิน
ความแตกต่างของการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชีและการแก้ไขข้อผิดพลาด
การแก้ไขข้อผิดพลาดแตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงประมาณการทางบัญชี โดยการประมาณการ ทางบัญชี มีลักษณะเป็นการประมาณการที่อาจต้องมีการทบทวนเมื่อกิจการได้รับข้อมูลเพิ่มเติม สำหรับการแก้ไขข้อผิดพลาดคือ การละเว้นการแสดงรายการและการแสดงรายการที่ ขัดต่อข้อเท็จจริงในงบการเงินของกิจการในงวดใดงวดหนึ่งหรือหลายงวดก่อน ๆ
ใช้วิธีปรับย้อนหลังเมื่อต้องแก้ไขข้อผิดพลาด
กิจการต้องแก้ไขข้อผิดพลาดที่มีสาระสำคัญของ งวดก่อนโดยปรับย้อนหลังในงบการเงินฉบับแรกที่ได้รับการอนุมัติให้เผยแพร่หลังจาก ที่พบข้อผิดพลาดโดย
ปรับงบการเงินงวดก่อนที่แสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบเสมือนว่าข้อผิดพลาดได้ ถูกแก้ไขในงวดบัญชีก่อนที่ข้อผิดพลาดได้เกิดขึ้น
หากข้อผิดพลาดเป็นข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นในงวดบัญชีก่อนงวดบัญชีแรกสุด ที่แสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ กิจการต้องปรับปรุงยอดคงเหลือยกมาต้นงวดของ สินทรัพย์ หนี้สิน และส่วนของเจ้าของในงบการเงินงวดแรกสุดที่นำมาแสดงเป็นข้อมูลเปรียบเทียบ